เมื่อช่วงค่ำวันที่ 28 มี.ค. ที่ จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว อบจ.จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายเกชา เกราะเหล็ก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.เชิงทะเล นำเรือตรวจการณ์ออกค้นหาวัตถุต้องสงสัยลอยทะเล หลังได้รับแจ้งจากเรือประมง ซึ่งออกไปตกปลาว่า พบวัตถุขนาดใหญ่ มีแสงไฟส่องออกมาหลายดวง คล้ายเครื่องบินกำลังตกในทะเล โดยจุดที่พบนั้น อยู่ห่างจากชายหาดหน้าสนามบินนานาชาติภูเก็ต ไปในทะเลประมาณ 20 กิโลเมตร
ทั้งนี้ หลังจากมีผู้พบเห็นวัตถุดังกล่าว ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลว่า อาจเป็นเครื่องบินเล็กของเอกชนที่ตกลงในทะเล ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมประมาณ 15 นาที ก่อนออกเรือมุ่งหน้าไปตรวจสอบยังจุดที่รับแจ้ง และจุดใกล้เคียงประมาณ 4 ชั่วโมง แต่ไม่พบวัตถุใดๆ จึงยุติการค้นหา คาดว่าวัตถุดังกล่าวจมลงสู่ก้นทะเลแล้ว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีผู้พบเห็นวัตถุดังกล่าวในหลายพื้นที่ เช่น หาดกะตะ หาดกะรน หาดราไวย์ โดยมีการถ่ายภาพและวิดีโอคลิปไว้ด้วย ซึ่งชาวเรือและชาวบ้าน ได้วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา บ้างก็เชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์เกี่ยวกับพญานาค
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะเป็นชิ้นส่วนของจรวดนำส่ง PSLV-C27 จากศูนย์อวกาศสตีศธวัน (Satish Dhawan Space Centre SHAR) บนเกาะศรีหริโกฎา สาธารณรัฐอินเดีย ที่ใช้ส่งดาวเทียมสำรวจดาวอังคารดวงแรกของประเทศ ขึ้นสู่อวกาศ
ก่อนหน้านี้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ของไทย ได้แจ้งจังหวัดในฝั่งอันดามัน ให้ระมัดระวังความเสี่ยงจากชิ้นส่วนจรวดตกใส่ในทะเล ระหว่างวันที่ 9 มีนาคม–8 เมษายน 2558 เพราะวิถีการนำส่งดาวเทียมดวงนี้ จะพาดผ่านน่านฟ้าจากมหาสมุทรอินเดีย ไปยังมหาสมุทรแปซิฟิก
นอกจากนี้ จากข้อมูลเพิ่มเติมของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ได้จัดทำแผนที่โดยใช้ข้อมูลที่ได้รับจากรัฐบาลอินเดีย แสดงถึงวิถีพาดผ่านอ่าวเบงกอล ทะเลอันดามันและภาคใต้ของประเทศไทยบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง โดยจะมีชิ้นส่วนจากจรวดนำส่งที่ตกลงมายังพื้นโลกจำนวน 7 ชิ้น และคาดว่าชิ้นส่วนชิ้นที่ 6 จะตกใกล้ประเทศไทยมากที่สุด ซึ่งจะตกในทะเลอันดามัน ห่างจากชายฝั่งจังหวัดพังงาประมาณ 260 กิโลเมตร ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของสาธารณรัฐอินเดีย
ชมคลิป
ที่มา: Thairath
Emoticon Emoticon