วันที่ 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. นายมืดและนางดำ ชาวตำบลท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย น.ส.หอม อายุ 15 ปี (นามสมมติ) ลูกสาวเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูง ผ่านสื่อมวลชนในจังหวัดขอนแก่น ว่า พนักงานสอบสวน สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ไม่ใส่ใจสืบสวนสอบสวนหาตัวคนผิดมาลงโทษ ทำเพียงเกลี้ยกล่อมให้พ่อ แม่และญาติของผู้เสียหายยอมความ รับเงินจากทางผู้ถูกกล่าวหา กรณีที่ น.ส.หอม ถูกชาย 3 คน หลอกไปมอมยาบ้าแล้วทำอนาจาร เมื่อคืนวันที่ 12 มีนาคม ต่อเนื่องวันที่ 13 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา
นายมืด เล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 12 มีนาคม 2558 มีงานบุญที่บ้านท่าโพธิ์ ม.4 ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง ซึ่งห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 10 กม.และมีการแสดงหมอลำ ลูกสาวขออนุญาตไปดูหมอลำกับเพื่อนจึงอนุญาตให้ไป แล้วลูกสาวก็หายตัวไป กระทั่งเวลา 01.00 น. วันที่ 13 มีนาคม 2558 ไม่เห็นลูกสาวกลับบ้านจึงออกตามหา ตามบ้านเพื่อนก็ไม่พบ ทราบจากชาวบ้านท่าโพธิ์เพียงว่า คืนวันที่ 12 นั้น ขณะลูกสาวนั่งดื่มกินกับเพื่อนๆ ก็มีนายโอเล่ อายุ 40 ปี ชาวบ้านท่าโพธิ์ มีอาชีพเป็นสายตำรวจ และนายอุ้ย นายหนึ่ง เพื่อนบ้านเดียวกัน ขับรถยนต์กระบะ สีบรอนซ์ ทะเบียน ผผ 4841 ขอนแก่น พร้อมนำเบียร์มาร่วมวงด้วย แต่เพียงครู่เดียว นายโอเล่ นายหนึ่งก็ออกไป ประมาณ 2 ชม. นายโอเล่ ก็ขับรถเข้ามาอีกรอบ เมื่อรถจอด นายอุ้ยได้ลากลูกสาวตนขึ้นรถ นั่งคู่กับนายโอเล่ที่เบาะหน้า ส่วนนายหนึ่ง ลากเพื่อนสาวอีก 2 คน ขึ้นไปนั่งที่แคปด้านหลังคนขับ แล้วทั้งหมดก็หายตัวไป เมื่อทราบรายละเอียดในเบื้องต้น จึงไปพบบิดาของนายโอเล่ พร้อมทั้งโทรศัพท์แจ้งภรรยานายโอเล่ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทราบ จากนั้น จึงไปแจ้งความกับ พ.ต.ต.ประยุทธ คำบอนพิทักษ์ พงส.สภ.น้ำพอง เบื้องต้น แจ้งเป็นคนหาย
กระทั่งเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน ญาติตนได้รับโทรศัพท์จากนายโอเล่ ว่า ให้ไปรับลูกสาวที่สะพานบ้านหัวบึงจำปา ซึ่งอยู่ไกลจากบ้านไปประมาณ 15 กม. จึงขับรถไปรับลูกสาว ซึ่งลูกสาวอยู่ในสภาพอิดโรยหมดเรี่ยวแรง นั่งซึมอยู่บนสะพาน แต่พูดจารู้เรื่องและลูกสาวเล่าให้ฟังว่า ช่วงที่นั่งดื่มกินที่บ้านเพื่อนในบ้านท่าโพธิ์ ถูกนายอุ้ย นายหนึ่ง นายโอเล่ ฉุดขึ้นรถกระบะพาไปกลางทุ่งนา เมื่อถึงทุ่งนาลูกสาวกับเพื่อนอีก 2 คน ถูกลากไปบนกระบะ แล้วนายโอเล่หยิบยาบ้าออกจากกระเป๋ากางเกงมา 1 ถุง บอกว่า ลูกสาวกับเพื่อนต้องเสพให้หมด แล้วนายโอเล่ก็เอาฟางข้าวมาใช้แทนหลอดแล้วเอายาบ้าใสในกระดาษฟอยล์ ใช้ไฟลน บังคับให้ลูกสาวเสพยาบ้าด้วยการสูดเอาควัน ที่นายโอเล่กำลังใช้ไฟลนอยู่ เมื่อยาบ้าหมด นายโอเล่ก็จะเติมยาบ้าลงไปใหม่ทีละ 2-4 เม็ด จังหวะนั้น เพื่อนลูกสาวดิ้นหลุดหนีไปได้ แต่ลูกสาวเมายาบ้าจนหมดเรี่ยวแรง
จากนั้นชายทั้ง 3 คน ก็หามลูกสาวไปไว้หน้ารถ แล้วก็หมดสติไป รู้สึกตัวอีกทีก็พบตัวเองเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน ภายในห้องพักที่รีสอร์ตสวนคูณ เส้นทางสายน้ำพอง-กระนวน พื้นที่ อ.น้ำพอง โดยมีนายโอ เล่นอนเปลือยกายอยู่ข้างๆ ส่วนข้างเตียง มีนายอุ้ยกับนายหนึ่งนอนหลับอยู่ ลูกสาวพยายามลุกเพื่อจะหลบหนี แต่ไม่มีเรี่ยวแรง จึงเผลอหลับไปอีก ตื่นมาอีกที ก็พบตัวเองอยู่ในรถกับพวกนายโอเล่แล้ว และทั้งหมดก็เอาลูกสาวไปทิ้งไว้ที่สะพานบ้านหัวบึงจำปา ดังกล่าว
เมื่อทราบเรื่องจากลูกสาว จึงพาลูกสาวไปแจ้งความเพิ่มเติม กับพนักงานสอบสวนคนเดิม เพื่อให้พนักงานสอบสวน ลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน และเพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับ นายโอเล่ นายอุ้ย นายหนึ่ง จากนั้นลูกสาวก็ถูกส่งตัวไปตรวจร่างกายที่ รพ.น้ำพอง การตรวจเบื้องต้น พบปัสสาวะเป็นสีม่วง อวัยวะเพศฉีกขาดจากการถูกข่มขืน
นายมืด เล่าทั้งน้ำตาว่า สิ่งที่เกิดขึ้นภายหลังเข้าแจ้งความ คือ ลูกสาวและคนในครอบครัวถูกนายโอเล่ ขับรถไปหาที่บ้าน เอาปืนออกมาข่มขู่ฆ่ายกครัว และขู่จะทำร้ายลูกสาวซ้ำอีก เมื่อไปแจ้งพนักงานสอบสวนคนเดิม กลับพูดว่า จะโทรไปตักเตือนนายโอเล่ให้ หนำซ้ำยังเกลี้ยกล่อมให้รับเงินจากนายโอเล่และพวก แต่ตนและญาติพี่น้องไม่ยอม ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ทั้งยังเห็นว่า พนักงานสอบสวนทำงานล่าช้า ทั้งที่นายโอเล่ กับพวกยังลอยนวลไปมา เที่ยวข่มขู่ตนและครอบครัวไม่เว้นแต่ละวัน จนไม่เป็นอันทำมาหากิน เพราะกลัวนายโอเล่ จะทำตามคำขู่ แย่ที่สุด คือ ลูกสาวกำลังจะขึ้น ม.4 ต้องออกไปโรงเรียนในเมืองขอนแก่น ระยะทางกว่า 30 กม.เป็นเรื่องที่น่าห่วงในความปลอดภัยของลูกสาว พนักงานสอบสวน น่าจะเร่งรีบสืบสวนสอบสวน เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดมาสอบได้แล้ว สอบถามความคืบหน้าก็ไม่ได้เรื่อง จึงร้องขอความเป็นธรรมต่อ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ขอนแก่น ให้เร่งรัดพนักงานสอบสวน สภ.น้ำพอง ดำเนินการสอบสวน จับกุมคนผิดโดยเร็ว ก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้.
ที่มา: www.thairath.co.th
Emoticon Emoticon